cooking post
แจกสูตร เค้กหน้านิ่ม เปลี่ยนมือใหม่ให้เป็นเจ้าของร้านออนไลน์ภายใน 1 วัน
Story by ณัฐณิชา ทวีมาก

สูตรเค้กหน้านิ่มสำหรับทำขาย เทคนิคละเอียด ต้นทุนแค่ 17 บาท
ในยุคที่เศรษฐกิจดูไม่ค่อยสนิทกับกระเป๋าสตางค์ซักเท่าไหร่ สิ้นเดือนทีไรแทบขาดใจทุกที การมีรายได้เสริมเป็นเงินสำรองไว้ใช้จ่ายเพิ่มเติมถือเป็นลาภอันประเสริฐ สำหรับมือใหม่หัดอบทั้งหลายที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรดี? บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ เพราะเราจะมาแจกไอเดียที่จะเปลี่ยนจากมือใหม่หัดอบให้กลายเป็นเจ้าของร้านเค้กออนไลน์เล็กๆ ภายในวันเดียว ! ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องลงทุนเยอะ ใช้แค่พื้นที่เล็กๆ ในคอนโดหรือมุมห้องครัวของบ้านเท่านั้น

ถ้าพูดถึงเบเกอร์รีทำง่าย ใช้อุปกรณ์ไม่เยอะ ทำแล้วป๊อบ ขายได้แน่นอน คงหนีไม่พ้นเค้กหน้านิ่มรสชาติต่างๆ โดยเฉพาะซิกเนเจอร์ เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กสุดคลาสสิกตลอดกาลที่ใครๆ ก็หลงรัก ด้วยรสชาติที่เข้มข้นของช็อกโกแลตเข้ากันได้ดีกับเนื้อเค้กนุ่มๆ เป็นรสชาติที่ปลอดภัยที่สุด ทำเมื่อไหร่ก็มีคนกิน ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งยังเป็นรสชาติที่ขายได้ง่าย แต่ครั้งนี้เราจะกระโดดไปมากกว่านั้น ลืมภาพเค้กหน้านิ่มใส่ฟอยด์สีเงินที่เคยกินไปได้เลย เพราะวันนี้เราจะมา Glow Up เปลี่ยนเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มธรรมดา ให้กลายเป็นเค้กหน้านิ่มสุดชิคสไตล์คาเฟ่ ที่ใครเห็นก็ต้องอยาก CF


Note
– อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มี อ่างผสม/ เครื่องตีไข่ไฟฟ้า/ ตระกร้อมือ/ เครื่องชั่ง/ พิมพ์ขันข้าวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.5 ซม./ เตาอบ
– อย่าลืม!! อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ไว้ด้วยนะ
ส่วนผสมเนื้อเค้ก
นมข้นจืด 40 กรัม
น้ำส้มสายชู 5 กรัม
ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 4 ฟอง
น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 80 + 80 กรัม
กลิ่นวานิลลา 5 กรัม
น้ำ 60 กรัม
น้ำมันพืช 100 กรัมฃ
แป้งเค้ก 100 กรัม
ผงโกโก้ 20 กรัม
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
ครีมออฟทาทาร์ ¼ ช้อนชา
ส่วนผสมหน้านิ่มช็อกโกแลต
นมข้นจืด 60 + 240 กรัม
แป้งข้าวโพด 20 กรัม
น้ำ 400 กรัม
ผงวุ้น 3 กรัม
น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 120 กรัม
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
ผงโกโก้ 40 กรัม
เนยสดชนิดจืด 60 กรัม
STEP 1: ทำบัตเตอร์มิลค์

สูตรนี้เราจะเปลี่ยนการทำบัตเตอร์มิลค์จากนมสดเป็นนมข้นจืดแทน เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกกว่า โดยผสมนมข้นจืดกับน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน เนื้อที่ได้จะข้นมีลักษณะคล้ายโยเกิร์ต
STEP 2: การตีไข่แดง + ร่อนส่วนผสมของแห้ง

เค้กหน้านิ่มทั่วไปใช้เนื้อเค้กอยู่ 2 แบบ คือ สปอนจ์เค้กกับชิฟฟ่อนเค้ก สำหรับสูตรนี้เราเลือกใช้เป็นเนื้อชิฟฟ่อน เพื่อความนุ่มนวลละมุน ฟูเบาของเนื้อสัมผัส โดยเริ่มจากแยกไข่แดงไข่ขาวออกจากกัน ใส่ในอ่างผสมคนละใบ ใส่น้ำตาลทราย 80 กรัมลงในอ่างผสมไข่แดง ใช้ตะกร้อมือตีให้น้ำตาลละลายและสีไข่อ่อนลง การเลือกใช้น้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้มือใหม่ตีน้ำตาลให้ละลายได้ง่ายและเร็วขึ้น หรือใครจะใช้น้ำตาลทรายปกติก็ได้เช่นกันนะ เสร็จแล้วใส่บัตเตอร์มิลค์ กลิ่นวานิลลา น้ำและน้ำมันพืช คนผสมให้เข้ากัน

ร่อนส่วนผสมของแห้งอย่าง แป้งเค้ก ผงโกโก้ เกลือป่นและเบกกิ้งโซดา ลงในส่วนผสมไข่แดง การร่อนจะช่วยให้ส่วนผสมกระจายตัวเข้ากันและทำให้แป้งโปร่งเบาขึ้น คนด้วยตะกร้อมือจนหมดเม็ดแป้ง และอย่าคนนานเพราะจะทำให้เนื้อเค้กเหนียวได้
STEP 3: การตีไข่ขาว (เมอแรงก์) *** สำคัญมาก!

ใส่ครีมออฟทาทาร์ลงในอ่างไข่ขาว ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ความเร็วกลางจนเป็นฟองหยาบ การใช้ครีมออฟทาทาร์จะช่วยให้ไข่ขาวขึ้นฟูและคงตัวได้ดี เนื้อโฟมไข่ขาวเนียนขึ้น จากนั้นใส่น้ำตาลส่วนที่เหลืออีก 80 กรัมลงไปทีละน้อย โดยทยอยแบ่งใส่ 3 ครั้ง ตีด้วยความเร็วสูงจนไข่ขาวฟูแน่นและตั้งยอดอ่อน (ลักษณะไข่ขาวเมื่อยกหัวตีขึ้น ส่วนปลายจะโค้งงอลงเล็กน้อยและไม่แข็งทื่อ)
STEP 4: การตะล่อมแป้ง *** สำคัญมาก!

ส่วนนี้เราจะทำให้ความหนาแน่นของไข่แดงใกล้เคียงกับไข่ขาวมากที่สุด เวลานำไปผสมแล้วจะได้ไม่ทำให้ฟองไข่ขาวยุบตัว โดยตักแบ่งไข่ขาวออกมาประมาณ 1/3 ส่วน ผสมกับส่วนผสมไข่แดงให้เข้ากัน โดยใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ ผสมไปเรื่อยๆ จนหมดและเข้ากันดี
Tip วิธีการตะล่อมที่ถูกต้อง: ใช้พายยางจ้วงตัดลงไปตรงกลางอ่างผสมจนถึงก้นอ่าง ลากพายยางไปตามขอบอ่างด้านใดด้านหนึ่ง แล้วตวัดส่วนผสมจากด้านล่างขึ้นมาทับด้านบน เหมือนกำลังวาดรูปตัว J พร้อมหมุนอ่างผสมไปเล็กน้อย ทำซ้ำขั้นตอนเดิม (จ้วงลงกลาง -> ตวัดขึ้น -> หมุนอ่าง) ไปเรื่อยๆ อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง จนเข้ากัน
STEP 5: ตักใส่พิมพ์ + เข้าอบ

เพื่อความชิกสไตล์คาเฟ่ เอาใจ Gen Z ขึ้นมาอีกนิดเราจะอัพหน้าตา จากตักใส่ถ้วยฟอยด์ธรรมดา เป็นพิมพ์ขันข้าวแทน ทรงเนื้อเค้กที่ได้จะเป็นกลม ๆ เหมือนคัพเค้ก เวลาอบออกมาแล้วราดเคลือบด้วยซอสหน้านิ่มคือน่ารักมากกก ให้ตักส่วนผสมใส่พิมพ์สูงประมาณ ¾ ของพิมพ์ (พิมพ์ละประมาณ 65 กรัม) จากนั้นเคาะไล่ฟองอากาศเล็กน้อย เรียงใส่ถาด นำเข้าอบนาน 15 -18 นาทีจนสุก (ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปแล้วไม่มีเค้กติดขึ้นมา) นำออกจากเตาอบ เวลานำเค้กออกจากพิมพ์ให้เนื้อเค้กสวย หลุดง่าย เทคนิคคือ ให้เราทาน้ำมันไว้ที่ก้นพิมพ์เล็กน้อยก่อนใส่ส่วนผสม เมื่อนำเค้กออกจากเตาอบแล้วให้เราเคาะพิมพ์ประมาณ 2-3 ครั้ง ก่อนคว่ำออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงจนเนื้อเค้กเย็นสนิท
ขั้นตอนทำหน้านิ่มช็อกโกแลต

STEP 1: แช่ผงวุ้น
ใส่น้ำและผงวุ้นรวมกันในหม้อ แช่ทิ้งไว้ 10 นาทีให้ผงวุ้นอิ่มน้ำดี เมื่อครบเวลา ยกหม้อตั้งไฟกลาง คนจนผงวุ้นละลายหมด (ไม่เห็นเม็ดๆในน้ำถือเป็นอันใช้ได้) จากนั้นละลายแป้งข้าวโพดกับนมข้นจืด 60 กรัม เตรียมไว้
STEP 2: ทำซอสหน้านิ่ม
ใส่นมข้นจืดส่วนที่เหลือ น้ำตาลทราย เกลือและผงโกโก้ ลงในหม้อ คนจนละลายเข้ากันดี พอส่วนผสมเดือด ค่อยๆ เทแป้งที่ละลายไว้ลงไปโดยในระหว่างเทให้คนส่วนผสมไปเรื่อยๆ จนซอสข้นขึ้น จึงปิดไฟ สุดท้ายใส่เนยสดจืดลงไป คนจนเนยะละลายเข้ากันกับซอส การใส่เนยลงไปหลังสุดจะทำให้ซอสหน้านิ่มของเราเงา มันวาวน่ารับประทาน
การราดหน้านิ่ม

นำเนื้อเค้กที่เย็นตัวแล้วเรียงใส่กล่อง การราดหน้านิ่มต้องราดตอนตัวซอสยังอุ่นๆ จะทำให้หน้าเรียบเนียนสวยงาม โดยเวลาราดให้ยกสูงเล็กน้อยให้ซอสไหลเป็นสายตรงๆ ราดให้คลุมเนื้อเค้กทั่ว พักให้เซ็ตตัวเล็กน้อยจึงตกแต่งหน้า รอจนเซ็ตตัวดี สำหรับหรับกล่องที่ใช้จะเป็นกล่องเค้กพลาสติกขนาด 10X11.5 CM

สำหรับการตกแต่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดราคาขายได้ อยู่ที่ว่าเลือกใช้อะไรมาตกแต่ง มองภาพเค้กของเราให้ออกมาแบบไหน แม้ต้นทุนเค้กราคาไม่แพง แต่เราสามารถตกแต่งให้ออกมาดู สวย แพง ได้เหมือนกัน รวมทั้งการเลือกกล่องหรือแพ็คเกจจิ้งที่ดูพรีเมียมแข็งแรง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวกำหนดราคาและความน่าซื้อของเค้กได้ทั้งหมด วันนี้เรามีไอเดียการตกแต่งหน้าเค้กมาฝากเป็นแบบ Less is More ยิ่งน้อย ยิ่งแพง ให้นำเอาไปปรับใช้กันได้ค่ะ

ไอเดีย 1 (The Classic): ใช้ผงโกโก้หรือผงชาเขียวที่อยู่ในส่วนผสมโรยบางๆ ทั่วหน้าเค้กหรือโรยแค่ครึ่งหนึ่ง
ไอเดีย 2 (The Textures): สร้างเนื้อสัมผัสที่หลากหลายเวลารับประทาน ด้วยการโรยเกล็ดช็อกโกแลตขูด บริเวณขอบๆ หรือด้านบน โรยแคกเกอร์บด หรือวางช็อกโกแลตบอล คุกกี้ เวเฟอร์แท่ง
ไอเดีย 3 (The Fruity): เพิ่มความสดชื่นด้วยผลไม้สดอย่าง สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี บลูเบอร์รี่ 1-2 ลูกตรงกลาง หรือเติมสีเขียวของใบไทม์หรือโรสแมร์รีลงไปก็สวย


ตารางคำนวณต้นทุน


*** ตารางข้างต้นเป็นราคาของในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา หรือถ้ามีแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ถูก สั่งมาในปริมาณมากๆ ต้นทุนก็จะถูกลงไปได้อีก โดยตารางนี้เป็นราคาที่คำนวณเฉพาะตัวเค้กหน้านิ่ม ค่าแรง ค่าน้ำ ค่าไฟและอื่นๆ ยังไม่รวมของตกแต่งหน้าเค้กและแพคเกจจิ้ง ***
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos