เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

แกะสูตร 3 เมนูอร่อยจาก Campfire Cooking in Another World with My Absurd Skill สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก

Story by ศรีวิการ์ สันติสุข

3 เมนูแสนอร่อยฝีมือมุโคดะที่จะทำให้น้ำลายไหลเหมือนลุงเฟลและน้องซุย

ระหว่างไถ NETFLIX ไปเรื่อยๆ นั้นก็ไปสะดุดตากับอนิเมะเรื่องหนึ่งชื่อย้าววววววยาวว่า Campfire Cooking in Another World with My Absurd Skill หรือชื่อไทย สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก เออ ดูน่าสนใจ ว่าแล้วก็กดเข้าไปดูซะหน่อยอันดับแรก ประทับใจความสวยของภาพ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นผลงานของ MAPPA สตูดิโอชื่อดังที่ทำอนิเมะอย่าง Chainsaw Man, Jujitsu Kaisen, Hell’s Paradise และซีซั่นสุดท้ายของ Attack on Titan อันดับต่อมาคือภาพปกติว่าสวยแล้ว แต่ภาพอาหารที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องยิ่งสวยเลิศล้ำขึ้นไปอีก สวยแบบนั่งดูอยู่หน้าจอก็คือน้ำลายไหลไปกับภาพเนื้อที่ถูกทอดในกระทะเสียงดังฉู่ฉ่าๆๆๆๆ เวลาพระเอกทำอาหารก็ไม่เพียงเห็นภาพได้อย่างชัดเจน เคลียร์ เข้าใจทุกขั้นตอน ยังเหมือนได้กลิ่นลอยออกมาจากจอด้วย มันเร้าขนาดนั้น! รู้ตัวอีกทีจากที่จะลองดูเล่นๆ ก็ดูจบทั้ง 12 ตอนในพริบตา พร้อมท้องร้องจ๊อกๆ ว่าแล้วก็ต้องเอามาป้ายยาให้ทุกคนได้กลืนน้ำลายไปด้วยกัน

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

Campfire Cooking in Another World with My Absurd Skill เป็นเรื่องของ มุโคดะ สึโยชิ ซาลารี่แมนชาวญี่ปุ่นอายุ 27 ปีที่มีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป จนกระทั่งเขาถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกเพื่อให้ไปช่วยปกป้องโลกแฟนตาซีที่มีทั้งพระราชา ปราสาท สัตว์อสูรต่างๆ ให้ปลอดภัย แต่เวรกรรมอะไรเช่นนั้น ในขณะที่ผู้ถูกอัญเชิญคนอื่นๆ มีทักษะสุดเจ๋งอย่างการใช้อาวุธหรือใช้เวทย์มนต์ มุโคดะของเรากลับมาพร้อมสกิลในการสั่งของกินทางเน็ตจากโลกเก่าบวกมีพื้นที่ที่สามารถเก็บของได้แบบไม่จำกัด แล้วจะเอาทักษะนี้ไปช่วยปกป้องบ้านเมืองได้ยังไงหว่า ว่าแล้วเขาก็เลยออกเดินทางผจญภัยในโลกแฟนตาซีแห่งนี้โดยไม่ขอไปสู้รบกับใคร ซึ่งก็ไม่มีใครห้าม เพราะคงคิดเหมือนกันนั่นละว่าสกิลนี้จะเอาไปใช้ต่อสู้ได้ยังไง (ฟะ)

 

 

 

 

ชีวิตในโลกใหม่ของมุโคดะก็เลยเริ่มต้นขึ้น ช่วงแรกๆ ก็ลำบากลำบนหน่อยเพราะเงินก็มีแค่เท่าที่พระราชาให้ติดตัวมา สกิลใดๆ ก็ไม่มี ยกเว้นสกิลสั่งของกินทางเน็ต แต่ด้วยความมองโลกแง่ดี พระเอกของเราก็เลยใช้สกิลสั่งของสำเร็จรูปมาทำอาหารให้เหล่าผู้ร่วมทางที่จ้างมาคุ้มครองเพื่อพาเดินทางข้ามเมือง และทุกครั้งที่มุโคดะสั่งของมาทำอาหาร มันจะหอมหวนชวนกินแถมยังอร่อยแบบบ้าบอสุดๆ ถึงขั้นที่สัตว์อสูรในตำนานอย่างเฟนริลที่แค่ได้ยินชื่อทุกคนก็กลัวตัวสั่นยังน้ำลายไหล และสุดท้ายก็ยอมมาเป็นสัตว์อสูรรับใช้ของพระเอกแลกกับอาหาร เนี่ย เห็นไหมคะว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

พอได้สัตว์อสูรระดับเทพอย่างเฟนริลหรือที่มุโคดะเรียกว่า เฟล มาติดสอยห้อยตาม ทีนี้ชีวิตพระเอกก็ดีละค่ะ ไหนจะไม่ต้องกลัวใครมาทำอะไร (ใครๆ ก็กลัวเฟล) เฟลยังออกไปล่าสัตว์อสูรต่างๆ นานามาให้มุโคดะเอาหนังเอาส่วนประกอบต่างๆ ไปขายได้เงินมหาศาล เพราะลุงเฟลเขาเทพ ล่าแต่ละตัวนี่ระดับแรร์ไอเท็ม ขายได้ราคาดีมากมาย แล้วเก็บเนื้อเอาไว้ให้พระเอกทำอาหารให้กิน ซึ่งล่ามาเยอะแค่ไหนก็ได้ เพราะมุโคดะมีห้องลับที่เก็บของได้เท่าไหร่ก็ไม่เต็ม (ส่วนมากใช้เก็บเนื้อสัตว์อสูรต่างๆ เพื่อไว้ใช้ทำอาหารเลี้ยงเฟล) แถมตอนหลังได้น้อง ซุย สไลม์ที่รูปร่างหน้าตาน่ารักน่าชัง แต่สกิลเทพเหมือนกันมาเป็นสัตว์อสูรรับใช้อีกตัว อนิเมะเรื่องนี้ก็เลยเน้นไปที่การสั่งของสำเร็จรูปทางเน็ตมาทำอาหาร โดยอะแดปต์ใช้เนื้อสัตว์อสูรของโลกนี้อย่างออร์ก แบล็คเซอร์แพนต์ ร็อกกี้เบิร์ด บลัดดี้ฮอร์นบูล ซึ่งเขาก็จะบอกว่าเนื้อแต่ละตัวนั้นมีความคล้ายกับหมู เนื้อ ไก่ บลาๆๆๆ ให้เราพอเดารสชาติออก

 

 

 

 

และก็อย่างที่บอก ทุกตอนจะมีซีนสั่งของมาทำอาหาร รวมแล้ว 12 ตอน มีหลากหลายเมนูให้ได้ตื่นตาบวกความอยากกิน 10 เลเวล เพราะเขาดีไซน์จากเมนูจริง ทำได้จริง กินได้จริง ทำไม่ยากเพราะเน้นการสั่งของสั่งซอสสำเร็จรูปจากซูเปอร์ฯ มาทำเป็นหลัก แต่ละเมนูยังมาพร้อมการลงดีเทลขั้นตอนการทำ ตั้งแต่เตรียมเนื้อ เตรียมผัก การหั่น การชุบ การทอด การต้มอะไรใดๆ เรียกว่าเป็นคุกกิ้งโชว์ที่มาในรูปอนิเมะก็ว่าได้ และในเมื่อมันแกะสูตรทำตามได้ง่ายแบบนี้ เราจะรีรออะไร ก็ให้ทีมอาหารผู้เก่งกาจของ KRUA.CO จัดการแกะ 3 เมนูมาทำจริงให้ได้กินไปเลยสิ ถึงแม้จะไม่มีเนื้อสัตว์อสูร แต่เนื้อไก่ หมู ปลา ก็อร่อยเหมือนกัน มีเมนูอะไรบ้าง ไปดูจ้า

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

พอร์คพิคคาตาราดมีทซอส

 

 

 

 

เป็นเมนูที่มุโคดะได้กินเนื้อออร์กครั้งแรก ด้วยความที่เล็งๆ แล้วดูคล้ายเนื้อหมู เลยเอามาแล่บางๆ ชุบไข่ผสมพาร์สเล่ย์ราดด้วยมีทซอสที่ทำเอาไว้ตั้งแต่มื้อก่อนหน้า ซึ่งลุงเฟลนักชิมเบอร์หนึ่งบอกว่ารสชาติอ่อนๆ และเนื้อนุ่ม สามารถกินได้อีกเรื่อยๆ เราเลยใช้เนื้อหมูเพราะพระเอกบอกว่ารสชาติเนื้อออร์กเหมือนเนื้อหมูเลย

 

 

 

 

คลิกดูสูตร พอร์คพิคคาตาราดมีทซอส

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

คิงเทราต์ทอดแบบเมอนิแยร์

 

 

 

 

เป็นตอนที่เฟลอยากกินเนื้อปลาเพราะกินแต่เนื้อสัตว์บกสัตว์ปีกมาเยอะแล้ว เลยพาพระเอกมาที่ทะเลสาบแล้วใช้พลังไฟฟ้าช็อตปลาขึ้นมาทำอาหาร ซึ่งก็ได้มาทั้งปลาเทราทต์ ปลาแซลมอน รวมถึงปลามีพิษที่เฟลบอกว่าอร่อย กินแล้วเผ็ดๆ ชาๆ ลิ้น ซึ่งมุโคดะไม่ให้กินเพราะจะเป็นพิษกับตัวเอง เฟลบอกงั้นมุโคดะก็ไม่ต้องกิน แต่พระเอกบอก (สอนนั่นแหละ) ว่าการทำอาหารนั้นจะเอาวัตถุดิบมีพิษมาปนกับวัตถุดิบอื่นไม่ได้ เลยเอาปลาตัวเล็กเอามาย่าง พร้อมสอนขั้นตอนการเตรียมปลา ตั้งแต่การล้างปลา ขอดเกล็ด ผ่าเอาเครื่องในออก เสียบไม้ ทาเกลือให้ทั่วตัว ส่วนคิงเทราต์ก็ทำให้ดูตั้งแต่ขอดเกล็ด เอาเครื่องในออก แล่ตามแนวกระดูก จนได้เฉพาะเนื้อ เอามาห่อฟอยล์กับเกลือ พริกไทย เนย นำไปย่างส่งกลิ่นหอมหวน อีกส่วนเอามาทอดแบบเมอนิแยร์ ราดซอสทาร์ทาร์ ที่เจ้าเฟลบอกว่ากลิ่นหอม หนังกรอบ แถมมื้อนี้มุโคดะสั่งเบียร์มากินคู่ไปอีก เรียกว่าเป็นมื้อแห่งความสุข เพราะกินกันริมทะเลสาบใต้ท้องฟ้าพร่างดาว เป็นตอนที่ให้ความรู้เรื่องการทำปลาแบบมาเต็มมาก ซึ่งงานนี้เราขอเปลี่ยนจากคิงเทราต์เป็นแซลมอนที่อร่อยเหมือนกัน

 

 

 

 

คลิกดูสูตร แซลมอนทอดแบบเมอนิแยร์

 

 

 

 

campfire

 

 

 

 

แฮมเบิร์กเนื้อบลัดดี้ฮอร์นบูลผสมเนื้อออร์กเจเนอรัล

 

 

 

 

เมนูนี้มุโคดะบอกว่าจะทำเมนูที่คิดค้นขึ้นใหม่ และออกมาเป็นแฮมเบิร์กเนื้อบลัดดี้ฮอร์นบูลกับออร์กเจเนอรัล ที่ลงทุนสั่งเครื่องบดเนื้อมาใช้โดยมีซุยเป็นคนลงมือบด วิธีการทำคือใส่เนื้อสองชนิดผสมกัน ใส่นม เกล็ดขนมปัง ไข่ หอมใหญ่ เกลือ พริกไทย นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อน นำไปย่างในกระทะ พอได้ที่ก็เติมน้ำเพื่ออบ สุกแล้วไปทำซอสสำหรับราดด้วยซอสมะเขือเทศกับซอสวูสเตอร์ และเป็นเมนูที่หอมฉุยน่ากินจนเจ้าเฟลน้ำลายไหลย้อยพร้อมบอกว่าอร่อยสุดๆ ไปเลย ในขณะที่น้องซุยชอบที่มีอะไรเยิ้มมๆ ข้างในซึ่งก็คือชีสสสสสนั่นเอง และเนื่องจากหาเนื้อสัตว์อสูรไม่ได้ เลยขอใช้เป็นเนื้อวัวแทนนะจ๊ะ

 

 

 

 

คลิกดูสูตร แฮมเบิร์กเนื้อไส้ชีส

Share this content

Contributor

Recommended Articles

Food Storyแพท พัทริกา นักเขียนและนักเดินทางผู้เชื่อว่าอาหารคือประตูสู่อินเดียที่ดีที่สุด
แพท พัทริกา นักเขียนและนักเดินทางผู้เชื่อว่าอาหารคือประตูสู่อินเดียที่ดีที่สุด

ว่าด้วยอาหารแขกกับสาวไทยหัวใจอินเดียเจ้าของเพจ 'ชาติที่แล้วคงเกิดเป็นแขก'

 

Recommended Videos