เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2-3 คน
Level
3
เมนูอร่อยๆจากถั่วแดงอีก 1 เมนู อย่างแกงถั่วแบบอินเดียสูตรนี้เลือกใช้ถั่วแดงเป็นพระเอกของเมนู ถั่วแดงต้มจนสุกดีผัดกับหอมแขก และมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศแบบฉบับอินเดียอย่างผงขมิ้นและเพิ่มความเผ็ดร้อนอย่างพริกป่นอินเดียว เคี่ยวให้ส่วนผสมสุกนุ่มจากนั้นค่อยใส่ผักชีปิดท้าย กินคู่กับแป้งโรตีทอด
INGREDIENTS
น้ำมันมะกอก
¼ ถ้วย
หอมแขกสับ (50 กรัม)
1 หัว
มะเขือเทศ (ลูกละ 100 กรัม)หั่นชิ้นเล็ก
3 ลูก
ผงขมิ้น
¼ ช้อนชา
พริกป่นอินเดีย
½ ช้อนชา
น้ำ
1½ ถ้วย
ถั่วแดงหลวงต้มสุก
150 กรัม
ผักชีหั่น
2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
½-1 ช้อนชา
ผักชีหั่นและหอมแดงเจียวสำหรับโรย
ผักชีและพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแว่นสำหรับตกแต่ง
โรตีปิ้งหรือโรตีทอดสำหรับจัดเสิร์ฟ
เครื่องเคียงมี แตงร้านหั่นแว่นมะเขือเทศหั่นแว่น ผักชี
METHOD
1. ตั้งกระทะน้ำมันมะกอกบนไฟอ่อน พอร้อนใส่หอมแขกลงผัดจนสุกนุ่มและมีกลิ่นหอมจึงใส่มะเขือเทศ ผงขมิ้น และพริกป่นอินเดียผัดพอทั่ว ใส่น้ำและถั่วแดงหลวงต้ม ผัดให้เข้ากัน เคี่ยวนาน 10-15 นาที จนมะเขือเทศและถั่วแดงสุกนุ่ม ใส่ผักชี และเกลือ คนให้ทั่ว เคี่ยวต่อจนน้ำงวด มะเขือเทศเละ และมีมันสีแดงลอยหน้า ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม กลมกล่อม หวานหอมแขก ปิดไฟ
3. ตักใส่ถ้วย โรยผักชีและหอมแดงเจียวตกแต่งด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแว่นเสิร์ฟร้อนๆพร้อมกับโรตีปิ้งหรือโรตีทอดและเครื่องเคียง
หมายเหตุ
- วิธีการต้มถั่วแดง ทำโดยล้างถั่วแดงในน้ำที่ใส่เกลือเล็กน้อย ล้างน้ำหลายๆครั้งจนน้ำใสสะอาดจึงแช่ถั่วแดงในน้ำพอท่วมพร้อมกับใส่ถ่านหุงต้มลงไปสัก 1-2 ก้อน เพื่อช่วยดูดกลิ่น แช่น้ำนาน 7-8ชั่วโมง หรือจนเม็ดถั่วแดงอิ่มน้ำเต็มที่ เม็ดถั่วจะอ้วนตึง จึงนำก้อนถ่านออก ล้างน้ำอีกครั้งจนสะอาดพักถั่วแดงในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางพอร้อน ใส่ถั่วแดงลงต้ม ใส่เกลือสมุทร (ดอกเกลือ) พอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน ต้มจนเดือด เติมน้ำจนน้ำหายเดือด ต้มต่อจนน้ำเดือดแล้วเติมน้ำ ทำเช่นนี้จนถั่วสุกนุ่ม ตักถั่วแดงต้มใส่อ่างผสม แล้วใส่น้ำจนน้ำเย็น พักถั่วแดงต้มในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ
Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

คุกกี้ขนมที่เรียกได้ว่าถ้าอยากจะพักดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำชาสักหน่อยขนมที่คิดจะกินคู่กันก็คงหนีไม่พ้น คุกกี้หอมๆกรอบนอกนุ่มในเป็นแน่ อยากสูตรคุกกี้สูตรนี้ก็ทั้งหอม อร่อย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ผสมเก๋ากี้ลงไปด้วยเพิ่มสีสันของรสชาติมากขึ้นเลือกใช้อัลมอนด์ป่นแทนใช้แป้งสาลี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้แป้งทานได้แน่นอน รสชาติไม่หวานมากไป กินเพลินๆกับน้ำชาคือที่สุด

เมนูที่ทำจากผงวุ้นอีกหนึ่งเมนูที่รับประกันได้ว่าอร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆแน่นอน เราคุ้นชิ้นกับกินน้ำเต้าหู้ในรูปแบบเครื่องดื่ม แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนน้ำเต้าหู้ให้เป็นขนมหวานทานง่ายโดยนำน้ำเต้าหู้มาผสมกับผงวุ้นแล้วนำไปเซ็ตตัวก่อนจะเสิร์ฟมากับธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงต้มที่นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย กินเย็นๆรับลองได้เลยว่าอร่อยชื่นใจเป็นแน่

เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

คุกกี้ขนมที่เรียกได้ว่าถ้าอยากจะพักดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำชาสักหน่อยขนมที่คิดจะกินคู่กันก็คงหนีไม่พ้น คุกกี้หอมๆกรอบนอกนุ่มในเป็นแน่ อยากสูตรคุกกี้สูตรนี้ก็ทั้งหอม อร่อย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ผสมเก๋ากี้ลงไปด้วยเพิ่มสีสันของรสชาติมากขึ้นเลือกใช้อัลมอนด์ป่นแทนใช้แป้งสาลี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้แป้งทานได้แน่นอน รสชาติไม่หวานมากไป กินเพลินๆกับน้ำชาคือที่สุด

เมนูที่ทำจากผงวุ้นอีกหนึ่งเมนูที่รับประกันได้ว่าอร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆแน่นอน เราคุ้นชิ้นกับกินน้ำเต้าหู้ในรูปแบบเครื่องดื่ม แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนน้ำเต้าหู้ให้เป็นขนมหวานทานง่ายโดยนำน้ำเต้าหู้มาผสมกับผงวุ้นแล้วนำไปเซ็ตตัวก่อนจะเสิร์ฟมากับธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงต้มที่นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย กินเย็นๆรับลองได้เลยว่าอร่อยชื่นใจเป็นแน่

เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

คุกกี้ขนมที่เรียกได้ว่าถ้าอยากจะพักดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำชาสักหน่อยขนมที่คิดจะกินคู่กันก็คงหนีไม่พ้น คุกกี้หอมๆกรอบนอกนุ่มในเป็นแน่ อยากสูตรคุกกี้สูตรนี้ก็ทั้งหอม อร่อย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ผสมเก๋ากี้ลงไปด้วยเพิ่มสีสันของรสชาติมากขึ้นเลือกใช้อัลมอนด์ป่นแทนใช้แป้งสาลี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้แป้งทานได้แน่นอน รสชาติไม่หวานมากไป กินเพลินๆกับน้ำชาคือที่สุด

เมนูที่ทำจากผงวุ้นอีกหนึ่งเมนูที่รับประกันได้ว่าอร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆแน่นอน เราคุ้นชิ้นกับกินน้ำเต้าหู้ในรูปแบบเครื่องดื่ม แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนน้ำเต้าหู้ให้เป็นขนมหวานทานง่ายโดยนำน้ำเต้าหู้มาผสมกับผงวุ้นแล้วนำไปเซ็ตตัวก่อนจะเสิร์ฟมากับธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงต้มที่นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย กินเย็นๆรับลองได้เลยว่าอร่อยชื่นใจเป็นแน่

เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
Recommended Videos